หนังใหม่ ADRIFT | เชย์ลีน วูดลีย์ รับบทเป็นหญิงแกร่งนักเดินทางที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค

ADRIFT shailene woodley

เนื้อหายาวไป จิ้มที่หัวข้อ เลือกอ่านได้เลยจ้า

ชอบบทความนี้ แชร์ได้เลยจ้า
  •  
  •  
  •  
  •   

ADRIFT หนังใหม่ กรกฎาคม 2561

คุยกับ “เชย์ลีน วูดลีย์” ขอพลิกบทบาทสาวน้อยมหัศจรรย์
มารับบทเป็นหญิงแกร่งนักเดินทางที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค
ตราบใดที่มีความรักนำทางใน ADRIFT

ADRIFT เชย์ลีน วูดลีย์

เชย์ลีน ไดแอนน์ วูดลีย์ หนึ่งในนักแสดงสาววัยรุ่นที่กำลังมาแรงที่สุดในยุคนี้ เธอเกิดที่ซาน เบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 1991 เธอเริ่มเรียนรู้การแสดงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จากนั้นก็มีผลงานครั้งแรกด้วยการแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง Replacing Dad ในปี 1999 ฝีมือการแสดงของเชย์ลีนพัฒนาขึ้นแบบดีวันดีคืน

จนกระทั่งมาแจ้งเกิดในฮลลีวูดจากภาพยนตร์ดราม่ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอย่าง The Descendant นอกจากนี้เธอก็ยังเรียกน้ำตาแฟนๆ ทั่วโลกจากผลงานดราม่าสุดโด่งดังอย่าง The Fault in Our Star และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือการรับบท ทริซ ไพรเออร์ จากภาพยนตร์แอ็คชั่นแฟนตาซสุดร้อนแรง ดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนขายดีอย่าง Divergent และ Insurgent

ADRIFT

กลางปี 2018 นี้เตรียมพบกับภาพยนตร์เรื่อง ADRIFT เรื่องราวที่จะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจจนลืมไม่ลง มันคือเรื่องของจิตวิญญาณมนุษย์ที่สามารถเอาชนะได้ทุกอุปสรรคด้วยพลังแห่งรัก

นำแสดงโดย เชย์ลีน วูดลีย์  (“The Fault in Our Stars, เฟรนไชส์ Divergent) และ แซม คาฟลิน (Me Before You, เฟรนไชส์ Hunger Games), “Adrift” สร้างจากเรื่องจริงสุดประทับใจของสองหัวใจอิสระที่พบกันโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นความรัก นำไปสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ในชีวิต

สองนักเดินเรือที่พร้อมจะออกเดินทางข้ามมหาสมุทร ทามี่ โอลด์แฮม (วูดลีย์) และ ริชาร์ด ชาร์ป (คาฟลิน) ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพวกเขากำลังล่องเรือเข้าสู่หนึ่งในพายุเฮอริแคนที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์ หลังจากพายุพัดผ่าน ทามี่ตื่นขึ้นมาพบว่าริชาร์ดบาดเจ็บสาหัสและเรือของพวกเขาเหลือแต่ซาก เมื่อไม่สามารถหวังให้ใครมาช่วยได้ ทามี่ต้องหาทางรวบรวมสติและความแข็งแกร่งเพื่อช่วยชีวิตชายคนเดียวที่เธอรัก

 ADRIFT

ได้ยินมาว่าคุณไม่รู้ตัวด้วยซ้ำในตอนแรกว่ามีบทเรื่องนี้ส่งมาให้?
วูดลีย์ : ฉันได้บททางเมลวันที่ฉันโดนจับ (เพราะไปร่วมประท้วงโครงการ Dakota Access Pipeline อย่างสันติ) มันค้างอยู่ในกล่องเมลฉันอยู่นาน หลายเดือนต่อมาเอเย่นต์ฉันถามว่ารู้จักแอรอนกับจอร์แดนไหม ฉันตอบว่า “แน่นอน เราซี้กันที่ฮาวาย” เขาบอกว่าสองคนนั้นเขียนบทเรื่องนี้แล้วส่งมาให้ฉันทางเมล พวกเขาถามว่าฉันได้อ่านหรือยัง ฉันเลยนึกออกว่าฉันลืมไปสนิทเลย มันค้างอยู่ในกล่องเมลฉันนี่นา!

อะไรคือสาเหตุให้คุณตกลงรับบทนี้?

วูดลีย์ : ฉันประทับใจมาก ประทับใจตัวตนของทามี่และเรื่องราวความรักของเธอ ฉันอินกับความเป็นคู่แท้ระหว่างทามี่และริชาร์ด คู่หมั้นของเธอ

การทำงานกับบัลทาซาร์ คอร์มาเกอร์ ผู้กำกับของเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?

วูดลีย์: บัลท์เป็นคนที่ทำงานด้วยสบายใจที่สุดคนหนึ่งในวงการ เขามีมุมมองที่เฉียบและเขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เขาเชื่อ แต่เขาเคารพการตัดสินใจและต้องการให้นักแสดงใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป การที่มีคนแบบนี้ดูแลงาน คนที่พร้อมฟังความคิดเห็นของทุกคนมันดีเหมือนได้ของขวัญเลยนะ บทก็เยี่ยมทีเดียวแต่เขาอยากให้ฉันมอบมุมมองส่วนตัวไปด้วย  ฉันอยากให้มันออกมาซื่อสัตย์ต่อเรื่องจริงของทามี่ เรื่องราวมันสดใหม่และมีมิติมาก ฉันอยากนำเสนอมันออกมา ซึ่งต้องขอบคุณผู้กำกับมากที่มอบโอกาสนี้ให้กับฉัน เขาช่วยได้เยอะจริงๆ เราซี้กันเร็วมาก เราพึ่งพาอาศัยกันและกัน มันดีมากที่ได้รู้จักตัวตนของเขานอกเหนือจากในกองถ่าย

ช่วยพูดถึงการทำงานกับ แซม คาฟลิน หน่อย?

วูดลีย์: แซม คาฟลิน เป็นยอดฝีมือ เขาเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุด เอื้อเฟื้อ มีจิตใจงดงาม และมองโลกในแง่ดี เขาเป็นคนดีที่สุดคนหนึ่งที่ฉันเคยทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง สภาพการทำงานมันไม่ง่ายเลย เราถ่ายกันในเรือกลางทะเลวันละ 14 ชั่วโมง เขาไม่เคยบ่นซักคำ เขาไม่เคยเหนื่อย นอกจากเขาจะเป็นมืออาชีพแบบสุดๆ แล้ว เขายังเป็นคนเฮฮาทำงานด้วยสนุก

คุณเตรียมตัวรับบทนี้อย่างไรบ้าง

วูดลีย์: ฉันเป็นนักว่ายน้ำอยู่แล้ว ฉันชอบอยู่ในน้ำมาตลอดแต่ฉันไม่เคยฝึกล่องเรือใบเลย ฉันใช้เวลาเป็นเดือนก่อนเปิดกล้องอยู่ในฮาวาย เรียนรู้การควบคุมเรือประเภทต่างๆ  ตอนที่ฉันไปฟิจิฉันออกเรือหนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนจะเริ่มทำงานกัน นอกจากนี้ฉันอ่านหนังสือที่เธอเขียน ฉันอ่านมันหลายรอบเลยเพราะฉันอยากเข้าใจมุมมองของเธอ ซึ่งหนังสือมันเหมือนเข็มทิศให้ฉันเลย ทุกครั้งก่อนเข้าฉากฉันต้องเปิดหนังสืออ่านไปพร้อมกับบทเพื่อความชัวร์

แล้วการถ่ายทำเป็นอย่างไร ได้ยินมาว่าลำบากใช่เล่น โดยเฉพาะฉากที่คุณต้องโดดหน้าผา?

วูดลีย์: มันไปลำบากมากเลย  เราต้องเดินขึ้นเขา 25 นาที แล้วต้องขึ้นแพล่องแม่น้ำต่ออีก มันเหมือนไปพักผ่อนกับครอบครัวเลยถ้าทีมงานไม่ได้ขนกล้องมาเต็มลำเรือ เราคุยกันเรื่องเตรียมการความปลอดภัย ทีมงานบอกฉันว่า “พอคุณอยู่ในน้ำ ถ้าคุณโดนกระแสน้ำพัด คุณต้องทำแบบนี้ ลอยไปให้ถึงจุดที่เราเตรียมช่วยไว้” มันสนุกมากเลย ทุกอย่างออกมาดีกว่าที่คิดภาพไว้อีก

คุณชอบฉากไหนที่สุดในเรื่อง?

วูดลีย์: มีหลายฉากเลยทีเดียว ฉันเลือกไม่ถูกหรอก มันมีฉากนึงเราอยู่กันบนเรือรอบตัวเรามีปลาโลมาเป็นร้อยๆ ตัวเลย มันมหัศจรรย์มาก มีอีกฉากที่เราเดินขึ้นเขาบนเกาะร้างห่างไกลความเจริญ วิวทะเลตัดกับท้องฟ้ามันสวยแบบที่ฉันจะไม่มีวันลืม แม้แต่วันที่ฉันเมาคลื่นจนอ้วกฉันก็ยังรักมัน ประสบการณ์ที่ฉันมาฟิจิครั้งนี้มันล้ำค่ามาก วัฒนธรรมที่นี่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก

เตรียมพบกับเรื่องจริงของความรักอันแข็งแกร่งที่ปะทะทุกอุปสรรคชีวิต

ฟันฝ่าพายุรักไปกับพวกเขาใน ADRIFT: 26 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

Adrift – Official Final Trailer [ ตัวอย่าง ซับไทย ]