เนื้อหายาวไป จิ้มที่หัวข้อ เลือกอ่านได้เลยจ้า
7 ที่เที่ยวดอยสายธรรมชาติสุดสโลวไลฟ์ สวยจนแทบลืมหายใจ!
ถ้าพูดถึงประเทศไทย ที่เที่ยวที่เด่นๆ นอกจากทะเล และหมู่เกาะต่างๆ ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง บอกเลยว่าที่เที่ยวทางธรรมชาติในแถบภาคเหนือนั้นก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือฤดูหนาว คนมักจะนิยมขึ้นดอย และภูต่างๆ เพื่อไปรอชมทะเลหมอก ซึ่งเอาจริงๆ แล้วดอยในแถบภาคเหนือ ก็สามารถไปเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากเป็นที่สูง จึงมักจะมีอากาศหนาวเย็น ยิ่งในช่วงหน้าหนาวแล้วด้วยนั้นแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะที่พักตามดอยต่างๆ นี้ก็มักจะถูกจองเต็มตลอดทั้งซีซั่น
สำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศ หรือหลีกหนีความวุ่นวาย แนะนำว่าให้ลองไปเที่ยวดอยกันดูสักครั้ง ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวแพ็คกระเป๋า แล้วไปดูกันดีกว่าว่าจะเที่ยวดอยไหนดี ? กับ 7 ดอยบรรยากาศดีที่ไม่ควรพลาด!!
ดอยหลวงเชียงดาว
แนะนำสำหรับใครที่ยังพอมีเรี่ยวแรง หรือยังเดินขึ้นเขาไหว ให้ลองมาเที่ยวที่ ‘ดอยหลวงเชียงดาว’ ดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะบรรยากาศ และวิวด้านบนของดอยหลวงเชียงดาวนั้นสวยจนทำให้คุณแทบลืมหายใจ โดยดอยหลวงเชียงดาว เป็นดอยที่มีความสูงมากถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยเลยทีเดียว หรือถ้าใครเดินไม่ไหว ก็สามารถเที่ยวด้านล่าง ในอำเภอเชียงดาว ก็จะมีทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ และโฮมสเตย์บรรยากาศดี ที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ
จองที่พักเชียงดาว กับ Traveloka
ดอยม่อนแจ่ม
ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเชียงใหม่ แน่นอนว่า ‘ดอยม่อนแจ่ม’ จะต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างที่ไม่ต้องคาดเดา เพราะว่าดอยม่อนแจ่มถือว่าเป็นดอยที่เดินทางง่าย สามารถขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับก็ได้ เพราะดอยม่อนแจ่ม ได้ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ภายในตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ภายในดอยม่อนแจ่มคุณจะได้พบกับวิวธรรมชาติสวยๆ และเพลิดเพลินไปกับไร่สตรอว์เบอร์รี่ตลอดทางที่ขึ้นมายังดอยม่อนแจ่ม ถ้าหากใครอยากพักที่ดอยม่อนแจ่ม ก็นำเต้นท์มากางนอนเองได้ หรือถ้าใครไม่สะดวกนอนเต้นท์ บริเวณแม่ริมก็มีที่พักแม่ริมสวยๆ ให้เลือกอีกเพียบ
ดอยผ้าห่มปก
อีกหนึ่งดอยที่สวย และมีความน่าสนใจมากๆ ไม่แพ้กับดอยอื่น ก็คือ ‘ดอยผ้าห่มปก’ ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แนะนำว่าถ้าใครเคยไปเที่ยวดอยหลวงเชียงดาวมาแล้ว ต้องห้ามพลาดที่จะมาเยือนดอยนี้ เพราะมีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่าดอยหลวงเชียงดาวเสียอีก โดยดอยผ้าห่มปกก็ถูกจัดว่าเป็นดอยที่สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยนั่นเอง ด้านบนของดอยผ้าห่มปกก็จะมีหมอก และอากาศที่หนาวเย็นอยู่ตลอดทั้งปี การเดินขึ้นไปให้สูงสุดถึงยอดดอย จะต้องใช้วิธีการเดินเท้าเท่านั้น โดยใช้ระยะเวลาเดินทางไป-กลับประมาณ 3-4 ชั่วโมงด้วยกัน หากใครอยากไปพิชิตดอยผ้าห่มปกนี้ ก็อย่าลืมเตรียมร่างกายมาให้พร้อม
นอกจากร่างกายที่ต้องเตรียมมาแล้ว สำหรับใครอยากนอนค้างคืนบนดอยนี้ ก็อย่าลืมเตรียมเต้นท์มาให้พร้อมด้วยเช่นกัน
ดอยอินทนนท์
หากอยากพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ให้พุ่งตัวมาที่ ‘ดอยอินทนนท์’ กันได้เลย ซึ่งดอยอินทนนท์นี้สามารถมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ภายในอำเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะต้องมีการเสียค่าเข้าด้วย จุดเด่นของดอยอินทนนท์ คนส่วนใหญ่จะนิยมมาเฝ้าดูพระอาทิตย์ขึ้น เพราะถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ที่มีวิวสวยงามไม่แพ้กัน
Tips: สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่รู้ คือบนยอดดอยอินทนนท์จะไม่มีจุดให้กางเต้นท์เหมือนกับหลายๆ ดอยที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ฉะนั้นคนที่อยากจะขึ้นไปชมวิวสวยๆ แนะนำให้จองที่พักดอยอินทนนท์กับ Traveloka ซึ่งขอบอกเลยว่าสะดวกมาก จองง่าย มีที่พักให้เลือกเยอะ และราคาประหยัดมากๆ นอนพักสักคืนเอาแรง ก่อนที่จะขับรถขึ้นไปชมวิวสวยๆ ในตอนเช้ามืด ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีอยู่ไม่น้อย
ค่าเข้าชมอุทยาน: สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 / เด็ก 20 บาท
สำหรับชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท / เด็ก 150 บาท
จองที่พักดอยอินทนนท์ กับ Traveloka
ดอยเสมอดาว
รับรองว่าคนที่มาดอยเสมอดาวเพื่อที่จะนอนดูดาว นั้นต้องฟินอย่างแน่นอน เพราะดอยเสมอดาวแห่งนี้จะมีลักษณะกว้าง และลาดยาวไปตามความโค้งของสันเขา เหมาะอย่างยิ่งกับการชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และตก รวมถึงการนอนดูดาวในยามค่ำคืน ดอยเสมอดาวนั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ ตั้งอยู่ใน จ.น่าน เหมาะสำหรับคนที่อยากได้จุดชมวิวสวยๆ แต่ไม่ต้องปีนป่ายมากนัก เลยอยากจะแนะนำสำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เบื่อดอยที่เชียงใหม่ แนะนำให้ลองมาเที่ยวดอยเสมอดาวนี้ดู ในส่วนของที่พักจะมีทั้งบ้านพัก และพื้นที่ให้กางเต้นท์ ที่สำคัญคือสามารถขึ้นมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รับรองว่าถ้าได้มานอนนับดาวสักคืน คุณจะต้องติดใจจนอยากกลับมาใหม่แน่นอน
ดอยภูคา
ถ้าหลังจากลงมาจากดอยเสมอดาว แล้วรู้สึกว่ายังไม่จุใจ เราขอเสนอให้มาเที่ยวอีกหนึ่งดอยที่อยู่ในจังหวัดน่านเหมือนกัน นั่นก็คือ ‘ดอยภูคา’ ที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ดังนั้นจึงมีความสวยงามของธรรมชาติ และมีอากาศที่บริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ความโดดเด่นของดอยภูคา ที่นอกจากจะมีทัศนียภาพอันงดงามแล้วนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวดอยภูคา เพื่อชมต้นชมพูภูคา ที่หายาก และมีเพียงแค่ที่ดอยภูคาแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งภายในหนึ่งปีต้นชมพูภูคานี้จะออกดอกเพียงแค่ปีละ 1 ครั้ง ภายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เพียงเท่านั้น
ภูชี้ฟ้า
เมื่อพูดถึงจุดชมวิวทะเลหมอก นอกจากเขาค้อแล้วนั้น ภูชี้ฟ้าก็ไม่เป็นสองรองใคร โดย ‘ภูชี้ฟ้า’ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาดอยผาหม่น ลักษณะเป็นหน้าผายื่นยาวออกไปทางฝั่งประเทศลาว สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ถ้าหากยื่นมองจากบริเวณหน้าผาสูงบนภูชี้ฟ้า ก็จะสามารถมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองในประเทศลาวได้อย่างชัดเจน คนส่วนใหญ่นิยมขึ้นภูชี้ฟ้า เพื่อที่จะมาชมวิวทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะต้องเตรียมตัว และออกเดินทางมาในช่วงเวลาเช้ามืด เพื่อให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น โดยจะเห็นเป็นภาพพระอาทิตย์ขึ้นทอแสงสีทองคลอเคลียกับทะเลหมอก ก่อเกิดเป็นภาพที่งดงาม และอลังการเป็นอย่างยิ่ง ถ้าใครไม่อยากตื่นเช้ามากนัก แนะนำให้จองที่พักใกล้ภูชี้ฟ้านอนก่อนสักคืน
จริงๆ แล้วการเที่ยวดอย หรือการเดินป่าเพื่อจะขึ้นไปพิชิตยอดเขานั้น จะต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจ เพราะถ้าหากว่าคุณป่วย ก็อาจจะเป็นอันตราย เนื่องจากบางดอยนั้นใช้ระยะเวลานอน และต้องเดินเท้าขึ้นเท่านั้น นอกจากนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมก็คือการจองที่พัก เพราะถ้าหากคุณไปเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยว ที่พักก็อาจจะเต็มได้ เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า ก่อนจะเดินทาง เข้าไปจองที่พักใน Traveloka ข้อดีคือประหยัดเงิน และรวดเร็ว จ่ายเงินง่าย ไม่ต้องมีบัตรเครดิตก็จองได้นะ รับรองว่าจองที่พักไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน
