เนื้อหายาวไป จิ้มที่หัวข้อ เลือกอ่านได้เลยจ้า
ต้องบอกเลยในปัจจุบัน ยิ่งโลกหมุนเร็วมากเท่าไหร่ การทำงานของมนุษย์ก็ยิ่งจะต้องหมุนตามให้ทันมากเท่านั้น และนำมาเหตุซึ่งอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ที่ส่งผลทั้งต่อสภาพจิตใจและร่างกาย เนื่องจากการใช้ชีวิตที่ต้องเร่งรีบตลอดเวลา ไม่มีเวลาพักผ่อน เคร่งเครียด และทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะสังคมออฟฟิศ ที่จะต้องเอาเวลาส่วนใหญ่มาอยู่กับหน้าจอคอมแทบตลอดเวลาการทำงาน ไม่ได้ลุกขึ้นไปไหน ขาดการเคลื่อนไหวและกิจกรรมการออกกำลัง ทำงานในพื้นที่ที่จำกัด พร้อมทั้งสภาพอากาศที่ไม่ค่อยถ่ายเท อยู่กับเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวัน ส่งผลร้ายต่อทั้งสุขภาพร่างกายและระบบทางเดินหายใจและสมอง จนนำมาซึ่งโรคยอดฮิตของคนทำงาน คือโรคออฟฟิศซินโดรมนั่นเอง
อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นกลุ่มอาการ ที่พบบ่อยในคนที่ทำงานในสำนักงาน ซึ่งสภาพแวดล้อมในที่ทำงานไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานตลอดเวลา แทบไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ และปวดเมื่อยตามอวัยวะต่าง ๆ อาทิ คอ, บ่า, ไหล่, หลัง, แขน บางรายปวดเกร็งอย่างรุนแรงจนหันคอ หรือก้มเงยไม่ได้เลย นอกจากบริเวณหลังคอ บ่า ไหล่แล้ว ส่วนข้อมือก็มีโอกาสเกิดอาการปวดได้เช่นกัน
เพราะต้องใช้มือในการกดคีย์บอร์ด คลิกเม้าส์ เมื่อกระดกข้อมือขึ้นลงซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ก็ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณเส้นเอ็น รวมทั้งเกิดภาวะพังผืดหนา ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วและข้อมือตามมา บางคนเป็นถึงขนาดนิ้วล็อก ขยับนิ้วมือได้ลำบาก ต้องผ่าตัดรักษา ส่วนบางรายที่มีอาการของหมอนรองกระดูกเคลื่อนอยู่แล้ว หากทำงานในอริยาบทที่ผิดหรือไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาการจะรุนแรงจนถึงขั้นหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทได้
อีกทั้งด้วยสภาพการทำงานที่ต้องรีบเร่ง มีส่วนทำให้พฤติกรรมของคนทำงานเปลี่ยนไป ทั้งการใช้คอมพิวเตอร์วันละหลาย ๆ ชั่วโมง การอดอาหาร อดหลับอดนอนเพื่อให้งานเสร็จ ทำให้ร่างกายต้องแบกรับความตึงเครียดปราศจากการผ่อนคลาย ซึ่งพบว่ากลุ่มโรคยอดนิยมสำหรับคนทำงานออฟฟิศ ได้แก่ นิ่วในถุงน้ำดี กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคเครียดนอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน กรดไหลย้อน ปวดหลังเรื้อรัง ไมเกรน ปวดศีรษะเรื้อรัง มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อก ต้อหิน ตาพร่ามัว เป็นต้น
เรียกได้ว่า โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคอันตรายที่มีร้ายหลายอย่างที่เราควรระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อรู้ถึงสาเหตุของโรคและอันตรายแล้วเราไปดูวิธีการดูแลสุขภาพ รักษาตัวเองอย่างไรไม่ให้กลายเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ไปดูกันค่ะ
วิธีการดูแลป้องกันสุขภาพไม่ให้เป็น โรคออฟฟิศซินโดรม
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
อย่างแรกเลยเราจะต้องทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานในออฟฟิศและหน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยการกระพริบตาบ่อยๆเพื่อที่จะได้ฟื้นฟูและให้น้ำหล่อเลี้ยงตาและสมอง พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 10-15 นาที เปลี่ยนท่านั่งและเคลื่อนไหวอิริยาบถทุกๆ 15-20 นาที ควรนั่งหลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ ยืดเส้นเหยียดคลายกล้ามเนื้อมือและแขนพร้อมส่วนต่างๆทุก ๆ 1 ชั่วโมง พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุก ๆ 10 นาที ควรวางข้อมือที่แป้นพิมพ์หรือการทำงานในตำแหน่งที่ตรง ไม่บิดงอข้อมือขึ้นหรือลง
2. ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน
เพื่อช่วยให้ร่างกายและการทำงานของส่วนต่าง ๆ ได้ทำงานอย่างสมดุลเราควรที่จะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์การทำงานที่ใช้ในสำนักงานให้เข้าที่เข้าทาง และเหมาะสมกับร่างกายของเรามากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากส่วนของคอมพิวเตอร์ที่เราควรตั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์และแป้นพิมพ์ให้อยู่ในระดับเดียวกับแนวตรงหน้า ควรที่จะให้หน้าจอตั้งอยู่เหนือกว่าระดับตาเพียงเล็กน้อย ตรงบริเวณขอบบนของหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับสายตาเพื่อที่จะได้ให้เราสามารถนั่งทำงานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ห่างเท่ากับความยาวแขน ซึ่งเป็นระยะที่อ่านสบายตา
ควรใช้เมาส์โดยพักข้อศอกบนที่รองแขนที่อาจจะเป็นผ้าขนหนูหรือที่รองแขนแบบสำเร็จรูปเลยก็ได้ เพื่อที่เราจะได้สามารถเคลื่อนไหวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่ ในส่วนของโต๊ะเก้าอี้นั้นควรที่จะตั้งอยู่ให้เหมาะสมกับการทำงานปรับพนักพิงให้รองรับกับหลังส่วนล่าง ควรปรับให้ขอบของเบาะเก้าอี้ต่ำกว่าระดับเข่า ทั้งยังควรปรับให้มีช่องว่างระหว่างขอบเก้าอี้กับขาด้านหลัง วางคีย์บอร์ดให้อยู่ในระดับข้อศอก ทำมุม 90 องศา ส่วนที่รองแขนให้อยู่ระดับข้อศอกและไหล่อยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย
3. ออกกำลังกายเป็นประจำ
อีกหนึ่งสิ่งที่จะสามารถช่วยปกป้องคุณจาก โรคออฟฟิศซินโดรม ได้ก็คือการออกกำลังกายเป็นประจำ ทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เป็นภูมิคุ้มกันของการเกิดโรคต่าง ๆ ช่วยทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นการวิ่งออกกำลังกายในช่วงเช้าและเย็น การเล่นโยคะเพื่อสุขภาพ หรือถ้าไม่มีเวลาจริง ๆ เราก็สามารถออกกำลังกายในที่ทำงานได้ เช่น การเดินขึ้นลงบันไดแทนใช้ลิฟท์ จัดโต๊ะทำงาน รดน้ำต้นไม้ กวาดและทำความสะอาดพื้นห้องทำงาน เป็นต้น
4. รับประทานอาหาร
นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อชดเชยพลังงานที่เราเสียไป ควรเน้นการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นหมวดหมู่โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต พร้อมทั้งอย่าลืมละเลยการทานผลไม้สดและผักปลอดสารพิษ เพื่อเพิ่มเกลือแร่และวิตามินซีในการฟื้นฟูร่างกาย ดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีเพิ่มเติมด้วยก็ได้
และนี่ก็เป็นเรื่องราวของออฟฟิศซินโดรมโรคยอดนิยมของคนทำงาน พร้อมเคล็ดลับวิธีการดูแลตัวเองที่คุณสามารถทำได้ไม่ยาก นอกจากจะขยันทำงานแล้วอย่าลืมที่จะขยันใส่ใจสุขภาพภายในและภายนอกของตนเองด้วยนะจ๊ะ
ที่มา : www.omgpills.com